วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต
1. ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต (ให้ตอบมาอย่างน้อย 5 ข้อ)
ตอบ 1.ด้านการศึกษา
          - สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
          - ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
          - นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น

2.ด้านธุรกิจและการพาณิชย์
          - ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
          - สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
          - ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น

3.ด้านการบันเทิง
          - การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine o­nline รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป
          - สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
          - สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้

4.การเรียนการสอนเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
       ในประเทศไทยการเรียนการสอนเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่เป็นในลักษณะของการเปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้น ให้แก่สมาชิกเครือข่าย หรือประชาชนผู้สนใจทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งได้จัดให้มีการเรียนการสอนเกี่ยว กับอินเตอร์เน็ต โดยจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาต่างๆ ให้แก่นักศึกษา ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมให้มีความพร้อมในการที่จะนำความรู้ไปประยุกต์ใน การค้นคว้าวิจัย หรือทำรายงาน ในรายวิชาต่าง ๆและที่สำคัญ เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง

5. ระบบข่าวสารบนอินเตอร์เน็ต   มีลักษณะเหมือนกระดานข่าวที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ทุกคนสามารถเปิดกระดานข่าวที่ตนเองสนใจหรือสามารถส่งข่าวสารผ่านกลุ่มข่าวบนกระดานนี้เพื่อโต้ตอบข่าวสารกันได้ ้

2. ให้นักเรียนหาประเด็นเกี่ยวโทษของอินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
   2.1  โรคติดอินเตอร์เน็ต
ตอบ....โรคติดอินเทอร์เน็ตอาจไม่คุ้นหูใคร หลายคนนะครับ แต่เชื่อว่าหลายครอบครัวคงพบปัญหาชวนสงสัยว่าลูกหลานใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปหรือไม่ โรคติดอินเทอร์เน็ต (Internet Addiction Disorder) นั้นจัดเป็นกลุ่มอาการทางจิตใจอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตในการเสพข้อมูลหรือข่าวสารมากเกินไป และหากเปรียบเทียบกับการติดดูโทรทัศน์หรือการติดอย่างอื่นๆ แล้วอินเทอร์เน็ตจะมีข้อแตกต่างกับสื่ออื่นๆ ก็คือ ความสามารถโต้ตอบกับผู้ที่เข้ามาใช้คนอื่นๆ ได้ทันที (Real Time)
ซึ่งทำให้โลกของอินเทอร์เน็ตมีความเสมือนเป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งที่ผู้ใช้สามารถ มีตัวตนในโลกนั้นได้ โดยปราศจากกฎเกณฑ์ และไร้ขอบเขตในการเดินทาง และสร้างตัวตนในโลกอินเทอร์เน็ตตามที่ตัวเองต้องการได้ ซึ่งหากผู้ใช้ยึดติดกับสังคมในโลกของอินเทอร์เน็ต จนแยกไม่ออกว่าโลกของความจริงและโลกเสมือน อาจจะนำมาซึ่งสาเหตุของเป็นโรคติดอินเทอร์เน็ตได้
  
  2.2   เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม
ตอบ....เรื่องของข้อมูลต่างๆที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆนั้นเป็น เรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอเน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนา มากนักทำให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภายเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอเน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่าอินเทอเน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้สือ่เหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้
   2.3   ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา
ตอบ....หนอนอินเทอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือโปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆจากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำงานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2542

 ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำนานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึดเมืองได้สำเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำงานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ไม่พึงประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรม ที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มันทำนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเราไปให้ผู้เขียนโปรแกรม
            นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหลอกหลวงต่างๆ อีกมากมายที่กลายเป็นข่าวให้เราได้รับทราบอยู่เสมอ การพยายามในการเจาะทำลายระบบเพื่อล้วงความลับหรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้น การใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน มีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร กลั่นกรองจากหลายๆ แหล่งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากเหล่ามิจฉาชีพไฮเทคเหล่านี้
   2.4  และโทษของอินเตอร์อื่นๆ มาอย่างน้อยอีก 5 ข้อ
ตอบ.....1โทษของอินเทอร์เน็ต มีหลากหลายลักษณะ ทั้งที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เสียหาย, ข้อมูลไม่ดี ไม่ถูกต้อง, แหล่งประกาศซื้อขาย
ของผิดกฏหมาย, ขายบริการทางเพศ ที่รวมและกระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ต่างๆ
            2 อินเทอร์เน็ตเป็นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทำให้การควบคุมกระทำได้ยาก
            3 มีข้อมูลที่มีผลเสียเผยแพร่อยู่ปริมาณมาก
           4 ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทำให้การค้นหากระทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
           5 เติบโตเร็วเกินไป
         - ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริง ต้องดูให้ดีเสียก่อน อาจถูกหลอกลวง-กลั่นแกล้งจากเพื่อน
         - ถ้าเล่นอินเทอร์เน็ตมากเกินไปอาจเสียการเรียนได้
         - ข้อมูลบางอย่างก็ไม่เหมาะกับเด็กๆ
         - ขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้ (นั่นจะเป็นเฉพาะการต่ออินเทอร์เน็ตแบบ Dial up แต่ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะสามารถใช้งานโทรศัพท์ที่ต่ออินเทอร์ เน็ตได้ด้วย)
         - เป็นสถานที่ที่ใช้ติดต่อสื่อสาร เพื่อก่อเหตุร้าย เช่น การวางระเบิด หรือล่อลวงผู้อื่นไปกระทำชำเรา
         - ทำให้เสียสุขภาพ เวลาที่ใช้อินเตอร์เนตเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้ขยับเคลื่อนไหว

3. ให้นักเรียนคิดโจทย์ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตที่เรียนมาตั้งแต่ต้น มีตัวเลือก พร้อมเฉลย อย่างน้อย 10 ข้อ
1. คอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อกันตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป เรียกว่าอะไร
ก.แผนกคอมพิวเตอร์
ข.เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ค.ฝ่ายคอมพิวเตอร์
ง.ระบบคอมพิวเตอร์
2. การเชื่อมคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียนเป็นการติดตั่งชนิดใด
ก.แลน (LAN)
ข.แมน(MAN)
ค.แวน(WAN)
ง.ติดตั้งได้ทุกที่
3. ข้อใดเป็นความสำคัญเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ก.ผู้ใช้สามารถทำง่านพร้อมกันได้
ข.ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
ค.ผู้ใช้สามารถใช้ทรัพยากรได้ เช่น เครื่องพิมพ์
ง.ถูกทุกข้อ
4. เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า อินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่
ก.เพราะมีบรรณารักษ์คอยควบคุมดูแล
ข.เพราะมีเครือข่ายที่กว้างไกล
ค.เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน
ง.เพราะมีการโฆษณาขายหนังสือครอบคลุมทุกเรื่อง
5. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
ก.สามารถเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ข.สามารถนำความลับของผู้อื่นมาเผยแพร่ได้
ค.สามารถส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หาเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศได้
ง.เป็นแหล่งค้นคว้าข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
6. ถ้าเปรียบเทียบกับที่ตั้งของบ้าน IP Address เปรียบได้กับอะไร
ก.บ้านเลขที่
ข.หมู่บ้าน
ค.ตำบล
ง.อำเภอ
7. Internet Explorer (e) เป็นโปรแกรมหนึ่งที่เรียกว่าอะไร
ก.เว็บไซต์
ข.เว็บเพจ
ค.เว็บเบราว์เซอร์
ง.เว็บแอดเดรส
8. ถ้าเปรียบเว็บไซต์เป็นหนังสือหนึ่งเล่ม โฮมเพจเปรียบได้กับอะไร
ก.บรรณานุกรม
ข.สารบัญ
ค.คำนำ
ง.ปกหนังสือ
9. โปรแกรม Search Engine ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดคือข้อใด
ก.www.google.co.th
ข.www.msn.com
ค.www.yahoo.com
ง.www.sanook.com
10. ข้อใดถือว่าเป็นการปฏิบัติตนในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ ไม่ เหมาะสม
ก.สนทนาด้วยถ้อยคำที่เป็นกันเอง
ข.นำภาพส่วนตัวของดาราลงเว็บไซต์
ค.ไม่บอกข้อมูลส่วนตัวกับผู้ที่เราไม่รู้จัก

ง.อ่านข้อความหรือรูปภาพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัดที่ 1 เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)

แบบฝึกหัดที่ 1

เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)


1.ให้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่างการสืบค้นแบบ  Web directory , Meta  search ,  Search  engine
ตอบ Web directory  คือ  ระบบที่เก็บรวบรวมเว็บไซต์ไว้เป็นหมวดหมู่  ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ ได้ด้วย  เว็บที่ถูกบันทึกในแต่ละกลุ่ม จะต้องมีหัวเรื่องหรือเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน
Meta  search   คือ Search Engine  ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษาHTML  ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex Editor ด้วยภาษา HTML  นั่นเองเช่นชื่อผู้พัฒนา คำค้นหา เจ้าของเว็บ หรือ บล็อก  คำอธิบายเว็บหรือบล็อกอย่างย่อผลการค้นหาของ Meta Search Engine  นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิด  เนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือผู้ออกแบบเว็บสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้ มากมายเพื่อให้เกิดการค้นหาและพบเว็บ หรือ บล็อกของตนเอง และ  อีกประการหนึ่งก็คือ มีการอาศัย Search Engine Index Server หลายๆ  แห่งมากประมวลผลรวมกัน จึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ  ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร. search engine คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล  โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว  เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ  ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย.  เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด)  ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป  จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา  ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล  จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย  และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป

2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว กับ การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google
ตอบ   ความแตกต่าง การใช้คำสั่ง ดีใจจัง ค้นแล้วเจอแล้วจะช่วยให้ใช้เวลาในการค้นหาหน้าเว็บน้อยลงเพราะเมื่อใช้คำสั่ง Google จะเข้าหน้าเว็บแรกที่เป็นผลลัพธ์ของข้อความค้นหาของคุณทันที ส่วนการใช้คำสั่งค้นหาแบบธรรมดานั้น Google จะแสดงผลลัพธ์เป็นหน้าเว็บให้คุณเลือกเข้าเองในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา 

 3.ในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา  จงอธิบายความแตกต่างพร้อมยกตัวอย่างการใช้งานพร้อมผลลัพธ์ทั้งสอง (แต่ละคนห้ามซ้ำกัน)
ตอบ    AND เป็นการให้คำที่เราต้องการค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ ทั้งสองคำ ที่อยู่ระหว่าง “AND”  แต่ OR เป็นการให้คำที่เราต้องค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ คำใดคำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่าง “OR”
ตัวอย่างเช่น
ค้นหาคำว่า โดราเอม่อน AND  โคนัน จะได้ผลการค้นหาของข้อมูลเอกสารที่มีคำทั้งสองเท่านั้น
ค้นหาคำว่า กระทรวงการเงิน OR  ธนาคาร จะได้ผลการค้นหาของข้อมูลเอกสารที่มีคำใดคำหนึ่งก็ได้



4.Google Scholar มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ   ใช้ในการค้นหา งานเขียนทางวิชาการได้อย่างกว้างขวาง  และสามารถค้นหาในสาขาวิชาและแหล่งข้อมูลต่างๆ มากมายได้จากจุดเดียว: บทความ  peer-reviewed วิทยานิพนธ์ หนังสือ บทคัดย่อ  และบทความจากสำนักพิมพ์ทางวิชาการ แวดวงวิชาชีพ ที่เก็บร่างบทความ  มหาวิทยาลัย และองค์กรด้านการศึกษาอื่นๆ Google Scholar  ช่วยให้คุณสามารถระบุการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในโลกแห่งการค้นคว้า วิจัยทางวิชาการ

5.Google Guru  มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ  เว็บไซต์ย่อยของ Google  ที่เปิดให้สมาชิกที่มีบัญชีของ Google เองเช่น Gmail  สามารถโพสตั้งคำถามที่อยากจะรู้  และตอบคำถามที่เรารู้เพื่อสะสมคะแนนความน่าเชื่อถือได้  โดยแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ว่ามีคำถามค้างคาใจในเรื่องไหน  ก็สามารถเข้าไปตั้งคำถามให้ตรงหมวด และรอคำตอบจากผู้ใช้บัญชี Google  คนอื่นมาตอบคำถามได้

6.iGoogle คืออะไรมีไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
ตอบ  iGoogle ก็เหมือนกับหน้าเว็บไซต์ Google  (ที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆ) แต่ว่าเป็นหน้าของเราเอง  โดย i ก็เท่ากับบอกว่า ฉันไงกูเกิ้ลซึ่งไม่ได้มีไว้เพียงแค่ค้นหาเพียง อย่างเดียว แต่เราสามารถปรับแต่งหน้านั้นอย่างไรก็ได้ แล้วแต่เราพอใจ  คือนอกจากที่เราจะสามารถเลือกเนื้อหามาแสดงได้แล้ว  รูปร่างหน้าตาของเว็บ iGoogle เราก็สามารถปรับแต่งได้ด้วย เช่น  เราชอบใช้ภาษาไทย เราก็ให้มันแสดงเป็นภาษาไทยได้  เปลี่ยนธีม(Theme) หรือรูปร่างหน้าตาทั้งเว็บได้ด้วย

7.จงบอกสิทธิประโยชน์ของการสมัครเป็นสมาชิกของ Google  ว่ามีความแตกต่างกับผู้ไม่สมัครอย่างไร (ให้นักเรียนบอกที่มาด้วย)
ตอบ  เมื่อสมัครเป็นสมาชิก Google จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์
สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์
สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร

ที่มา: http://urlsiriporn.blogspot.com

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

เทคนิคการสืบค้นข้อมูล

ใบงานที่ 3.1
เรื่อง เทคนิคการสืบค้นข้อมูล

โครงงานที่ข้าพเจ้าสนใจคือ การทำสบู่

1. ให้นักเรียนเขียนวิธีการสืบค้นโดยเว็บไซต์กูเกิ้ล มีเงื่อนไขการสืบค้นให้มีความสำคัญ 3 คำ
       ตอบ โครงงานการทำสบู่.doc
2.ให้กรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นข้อมูลโดยใช้เว็บไซต์กูเกิ้ล และต้องการสืบค้นข้อมูลประเภทเอกสาร หรือไฟล์เอกสารเวิร์ด(Word)นักเรียนจะต้องพิมพ์เงื่อนไขการสืบค้นอย่างไร (ใช้คำสืบค้นชื่อเรื่องที่นักเรียนเลือกทำโครงการ)
       ตอบ โครงงานการทำสบู่.doc
3.ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็บไซต์กูเกิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูลประเภทงานนำเสนอหรือไฟล์พาเวอร์พ้อยด์(Powerpoint)นักเรียนจะต้องพิมพ์เงื่อนไขการสืบค้นอย่างไร(ใช้คำสืบค้นเรื่องที่นักเรียนเลือกทำโครงงาน)
     ตอบ สบู่เหลว.ppt
4. ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็บไซต์กูเกิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูลประเภทพีดีเอฟ(.pdf)  ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่ต้องการแก้ไข
       ตอบ  การผลิตสบู่.pdf

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต

WebPage หมายถึง .....คือเอกสารเว็บชนิดหนึ่งหมาะสำหรับเวิลด์ไวด์เว็บและเว็บเบราว์เซอร์ เว็บเบราว์เซอร์จะแสดงเว็บเพจบนจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ เว็บเพจก็คือสิ่งที่ปรากฏออกมา แต่ศัพท์นี้ก็ยังหมายถึงแฟ้มคอมพิวเตอร์ที่มักจะเขียนเป็นเอชทีเอ็มแอลหรือภาษามาร์กอัปที่เทียบเคียงได้ ซึ่งมีลักษณะเด่นอันเป็นหลักก็คือ การจัดเตรียมข้อความหลายมิติที่จะนำไปสู่ เว็บเพจอื่น ผ่านทางลิงก์ เว็บเบราว์เซอร์จะประสานงานกับทรัพยากรเว็บที่อยู่โดยรอบเว็บเพจที่เขียน อาทิสไตล์ชีต สคริปต์ และรูปภาพ เพื่อนำเสนอเว็บเพจนั้นเว็บเบราว์เซอร์สามารถค้นคืนเว็บเพจจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลบนเครือข่ายหนึ่ง ๆ ได้ ในระดับที่สูงขึ้น เว็บเซิร์ฟเวอร์อาจจำกัดการเข้าถึงให้เฉพาะเครือข่ายส่วนตัว เช่นอินทราเน็ตภายในองค์กร หรือจัดเตรียมการเข้าถึงสู่เวิลด์ไวด์เว็บ ส่วนในระดับที่ต่ำกว่า เว็บเบราว์เซอร์จะใช้เกณฑ์วิธีขนส่งข้อความหลายมิติ (เอชทีทีพี) เพื่อสร้างการร้องขอเช่นนั้น
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

Web site หมายถึง .... หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

HomePage หมายถึง ....โฮมเพจ คือคำที่ใช้เรียกหน้าแรกของเว็บไซต์ โดยเป็นทางเข้าหลักของเว็บไซต์ เมื่อเปิดเว็บไซต์นั้นขึ้นมา โฮมเพจ ก็จะเปรียบเสมือนกับเป็นสารบัญและคำนำที่เจ้าของเว็บไซต์นั้นได้สร้างขึ้น เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์องค์กรของตน นอกจากนี้ ภายในโฮมเพจก็อาจมีเอกสารหรือข้อความที่เชื่อมโยงต่อไปยังเว็บเพจอื่นๆอีกด้วย
ที่มา : http://www.mindphp.com/

Web Browser หมายถึง ....โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล ที่จัดเก็บไว้ที่เว็บเซอร์วิซหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

Domain Name หมายถึง ....ชื่อที่ถูกเรียกแทนการเรียกเป็นหมายเลขอินเทอร์เน็ต (IP Address) เนื่องจากการจดจำหมายเลข IP ถึง 16 หลัก ทำให้ยุ่งยาก และไม่สามารถจำได้เวลาท่องเที่ยวไปในระบบอินเทอร์เน็ต จึงนำชื่อที่เป็นตัวอักษรมาใช้แทน ซึ่งมักจะเป็นชื่อที่สื่อความหมายถึงหน่วยงาน หรือเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ
ที่มา : https://www.ireallyhost.com/kb/domain/

URL(Uniform Resouire Locator)  หมายถึง ....ยูอาร์แอล (อังกฤษ: URL) คือตัวระบุแหล่งทรัพยากรสากล (URI) ประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับระบุแหล่งที่อยู่ของทรัพยากรที่ต้องการ และมีกลไกบางอย่างสำหรับดึงข้อมูลทรัพยากรนั้นมา ในการใช้ในเอกสารทางเทคนิคและการอภิปรายทั่วไป มักจะใช้ยูอาร์แอลแทนความหมายที่คล้ายกับยูอาร์ไอ  ซึ่งไม่ใช่ความหมายที่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดความสับสน ในภาษาพูดทั่วไป ยูอาร์แอลอาจหมายถึง ที่อยู่บนเว็บ หรือ ที่อยู่อินเทอร์เน็ต ก็ได้ ซึ่งปกติแล้วเรามักพิมพ์ยูอาร์แอลในแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์เพื่อเรียกข้อมูลจากเว็บไซต์
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

IP (Internet Protocol) หมายถึง ....อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล ย่อว่า ไอพี​ (อังกฤษ: Internet Protocol: IP) หรือ เกณฑ์วิธีอินเทอร์เน็ต เป็นโพรโทคอลการสื่อสารที่สำคัญใน Internet protocol suite สำหรับถ่ายทอดดาต้าแกรม(หน่วยข้อมูลพื้นฐานของแพ็กเกต ซึ่งการส่ง, เวลาถึงและลำดับที่ถึง ไม่ถูกรับประกันโดยเครือข่าย)ข้ามเขตแดนเครือข่าย ฟังก์ชันการกำหนดเส้นทางของมันจะช่วยงานภายในเครื่อข่ายและก่อตั้งระบบอินเทอร์เน็ตขึ้น การทำงานของไอพีเป็นการทำงานแบบไม่รับประกันความถูกต้องของข้อมูล
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

TCP/IP (Transport Control Protocol/Internet Protocol) หมายถึง ....เกณฑ์วิธีควบคุมการขนส่งข้อมูล หรือ ทีซีพี (อังกฤษ: Transmission Control Protocol: TCP) เป็นหนึ่งในโพรโทคอลหลักในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หน้าที่หลักของทีซีพี คือ ควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างแม่ข่ายถึงแม่ข่ายนเครือข่าย เพื่อใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โดยตัวโพรโทคอลจะรับประกันความถูกต้อง และลำดับของข้อมูลที่ส่งผ่านระบบเครือข่าย นอกจากนั้นทีซีพียังช่วยจำแนกข้อมูลให้ส่งผ่านไปยังแอปพลิเคชัน ที่ทำงานอยู่บนแม่ข่ายเดียวกันให้ถูกต้องด้วยงานหลักที่สำคัญของทีซีพีอีกงานหนึ่งคือ เป็นโพรโทคอลที่ขั้นกลางระหว่างแอปพลิเคชันและเครือข่ายไอพี ทำให้แอปพลิเคชันจากแม่ข่ายหนึ่ง สามารถส่งข้อมูลออกยังอีกแม่ข่ายหนึ่งผ่านเครือข่ายเปรียบเสมือนมีท่อส่งข้อมูลระหว่างกัน ทีซีพี เป็นโพรโทคอลที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกของอินเทอร์เน็ต มีแอปพลิเคชันจำนวนมากที่ใช้โพรโทคอลทีซีพีเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อ เช่น เวิลด์ไวด์เว็บ เป็นต้น
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

Protocolหมายถึง ....ข้อกำหนดซึ่งประกอบด้วยกฎต่าง ๆ สำหรับรูปแบบการสื่อสารเฉพาะรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้การติดต่อสื่อสารในระบบเครือข่าย ทำงานได้ด้วยกันทั้งระบบ คล้ายกับมนุษย์สามารถใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสารถึงกันได้
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

ISP (Internet Service Provider)   หมายถึง ....ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet service provider: ISP) คือ บริษัทที่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยผู้ให้บริการจะเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับเทคโนโนยีรับส่งข้อมูลที่เหมาะสมในการส่งผ่านอุปกรณ์โพรโทคอลอินเทอร์เน็ต อย่างเช่น ไดอัล, ดีเอสแอล, เคเบิลโมเด็ม, ไร้สาย หรือการเชื่อมต่อระบบไฮสปีดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจให้บริการ เปิดบัญชีชื่อผู้ใช้ในอีเมล ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นโดยรับ-ส่ง ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ในบางครั้งผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตอาจให้บริการเก็บไฟล์ข้อมูลระยะไกล รวมถึงเรื่องเฉพาะทางอื่น เป็นต้น
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

ASP (Application Service Provider) หมายถึง ....บริษัทหรือองค์กรที่ให้บริการใช้ซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่เราไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เครื่องของเรา เพียงติดต่อขอเข้าใช้บริการซอฟต์แวร์ที่ต้องการที่เว็บไซต์นั้นและเสียค่าใช้จ่าย คุณก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์ได้ตามต้องการ
ที่มา : http://www.kingrpg.net/2010/05/

IDC (Internet Data Center) หมายถึง ....บริการในการจัดเก็บรักษาข้อมูล และอุปกรณ์ ICT (เครื่อง Server, อุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ) ให้กับธุรกิจและองค์กร เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น เนื่องจากในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจจะต้องมีการติดต่อสื่อสารรับส่งข้อมูลระหว่างกันตลอดเวลา เพราะมีการแข่งขันกันสูงหรือ ห้องดาต้าเซ็นเตอร์องค์ประกอบของ Internet Data Center (IDC) สำหรับวาง Colocation Server 1 Uองค์กรธุรกิจต่างๆ จึงจำเป็นต้องเลือกใช้ IDC ที่มีมาตรฐาน มีระบบการรักษาข้อมูล และอุปกรณ์ ICT ที่มีประสิทธิภาพ เช่น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใด จะต้องมีการส่งข้อมูลถึงกันได้ทันท่วงที เพื่อนำข้อมูลนั้นๆไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในธุรกิจของแต่องค์กรพื้นที่ขนาด 1 U, สำหรับการวาง Server 1 เครื่อง
ที่มา : http://webhostingserver.technologyland.co.th/2014/01/internet-data-center.html

E-Commerce (Elertronic Commerce)หมายถึง ....การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ให้ความหมาย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเป็น ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

Hypertext หมายถึง ....ข้อความ หรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยการนำเสนอแบบปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ด้วยการนำข้อความที่ใช้มาเป็นจุดเชื่อมโยง ซึ่งจะปรากฏในลักษณะที่เด่นกว่าข้อความอื่น เช่น เป็นคำที่ขีดเส้นใต้ หรือคำที่เป็นตัวหนา เป็นต้น ในยุคแรกที่มีการนำไฮเปอร์ลิ้งค์เข้ามาใช้ในคอมพิวเตอร์ ที่เห็นได้เด่นชัด ได้แก่ ข้อความในระบบช่วยเหลือของโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งรูปแบบของระบบช่วยเหลือจะเริ่มด้วยการแสดงหัวข้อของการช่วยเหลือทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้เป็นผู้เลือกว่าต้องการความช่วยเหลืออย่างไรโดยใช้เมาส์คลิกที่หัวข้อนั้นๆ แล้วจะมีช่องข้อความและภาพที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นปรากฏขึ้นมาให้อ่าน จากหัวข้อที่ถูกเลือกจะถูกเชื่อมโยงไปยังรายละเอียดภายในที่ได้ตระเตรียมไว้แล้ว และแสดงผลออกมาทางหน้าจอในรูปของข้อความซึ่งภายในข้อความเหล่านี้อาจจะมีบางข้อความที่สำคัญได้ถูกเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาอื่นอีก รูปแบบของข้อความหลายมิติจึงไม่ใช่เป็นการเสนอเนื้อหาแบบเส้นตรงที่ผู้อ่านจะต้องอ่านตั้งแต่ต้นไปจนจบ แต่สามารถอ่านแทรกข้อความที่เป็นคำสำคัญที่ตนสนใจได้เป็นระยะ ๆ ตามความต้องการ การนำเสนอเนื้อหาทั้งหมดนี้เป็นไปในรูปแบบของตัวอักษรทั้งสิ้น จึงเรียกว่า ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext)”
ที่มา : http://dict.longdo.com/search/

Download หมายถึง ....การคัดลอกแฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรม จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเข้า มาในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรากำลังใช้อยู่ โดยผ่านทางโมเด็ม ((modem) เป็นต้นว่าคัดลอกจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเข้ามาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเอง (เพื่อว่าภายหลังจะได้ใช้ตามลำพังได้)
ที่มา : http://dictionary.sanook.com/search/dict-computer/download

Upload หมายถึง .... เป็นการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป
ที่มา : http://www.chaiwbi.com/anet01/p04/t04l.html

POP (Post Office Protocal) หมายถึง ....ระบบที่ทำให้สามารถรับและดาว์นโหลด จดหมายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ไปยังคอมพิวเตอร์ของเราเอง
ที่มา : http://www.chaiwbi.com/anet01/p04/t04l.html

Internet Address หมายถึง ....คือหมายเลขรหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต โดยเลขนี้จะมีรหัสซ้ำกันไม่ได้ IP Address ประกอบไปด้วยตัวเลข 4 หลักที่คั่นด้วย เครื่องจุด (.) ตัวอย่างเช่น 203.155.35.2 เป็น IP Address ของเครื่อง internet.th.com
ที่มา : http://www.chaiwbi.com/anet01/p04/t04l.html

IP Address คือหมายถึง ....หมายเลขรหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต โดยเลขนี้จะมีรหัสซ้ำกันไม่ได้ IP Address ประกอบไปด้วยตัวเลข 4 หลักที่คั่ นด้วย เครื่องจุด (.) ตัวอย่างเช่น 203.155.35.2 เป็น IP Address ของเครื่อง internet.th.com
ที่มา : http://www.chaiwbi.com/anet01/p04/t04l.html

Mailing List หมายถึง ....กลุ่มสนทนาที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้โปรแกรม E-mail ติดต่อสื่อสารระหว่างกัน การเข้าร่วม Mailing List โดยสมัครสมาชิกแล้วจดหมายทุกฉบับที่ถูกส่งไปยัง List ก็จะถูกส่งไปให้ทุกคน ที่อยู่ใน List ได้อ่านกัน
ที่มา : http://www.chaiwbi.com/anet01/p04/t04l.html

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แบบฝึกหัดอินเตอร์เน็ต

แบบฝึกหัดอินเตอร์เน็ต

1. จงค้นหาเว็บไซต์ที่มีโดเมนเป็นดังต่อไปนี้อย่างละ 5 เว็บไซต์แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
- .com 
http://www.ch7.com                  สถานีโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 7
http://www.thaitv3.com             สถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสี ช่อง 3
http://www.sanook.com             เป็นเว็ปที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมเข้าเมื่อเริ่มเล่นเนตใหม่ๆ
http://www.yahoo.com              เป็นเว็ปใช้ในการ รับ - ส่ง อิเมล์ แต่ให้พื้นที่ในการเก็บเมล์ ถึง 1 GB http://www.thaispypolice.com   เว็ปฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล 
- .co.th 
http://www.thairath.co.th       หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ
http://www.manager.co.th     หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ
http://www.dailynews.co.th   หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
http://www.google.co.th        เป็นเว็ปที่ใช้ค้นหาเว็ปต่างๆได้ทั่วโลก  ปัจจุบันนิยมใช้กันมากที่สุดในโลก
http://www.tv5.co.th              สถานีโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 5
                      
- .ac.th 
http://www.chauat.ac.th        โรงเรียนชะอวด
http://e-learning.tu.ac.th              มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   
http://www3.chainat.ac.th/          บทเรียนออนไลน์ วิทยาลัยเทคนิคชัยนาท
http://wwwreg.su.ac.th                มหาวิทยาลัยศิลปากร
http://www.web.msu.ac.th           มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

- .go.th 
http://www.moi.go.th                กระทรวงมหาดไทย
http://www.dopa.go.th              กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
http://www.dla.go.th                 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
http://www.thaimet.tmd.go.th   เว็ปพยากรณ์อากาศ
http://www.prd.go.th                 สถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์
- .or.th 
http://www.tat.or.th/thai                     การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
http://www.nationalhealth.or.th         สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
http://www.e-learning.sg.or.th           การเรียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
http://www.sac.or.th                           ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
http://www.shi.or.th                           สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.)

2.  จงค้นหาเว็บไซต์ที่ให้บริการ Search Engine มาอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
          ตอบ 1. Yahoo     http://www.yahoo.com
Yahoo (อ่านว่า ยา-ฮู) เป็น Search Engine ที่เก่าแก่และเรียกว่ามีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตัวหนึ่งในอาณาจักรอินเทอร์เน็ต จุดเด่นหลักของเว็บไซต์นี้คงมาจากความสามารถในการค้นหาข้อมูลที่ทำได้อย่างรวดเร็ว จุดหนึ่งที่ทำให้ Yahoo โดดเด่นเป็นพิเศษก็คือการแบ่งเว็บไซต์ที่เก็บในฐานข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่และยังมีการโยงใยระหว่างกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
                 2. Google
                  www.google.com
Google เป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลก ในอดีตเป็นบริษัทที่ดำเนินการด้านฐานข้อมูลเพื่อให้บริการแก่เว็บไซต์ค้นหาอื่นๆ ปัจจุบันได้เปิดเว็บไซต์ค้นหาเอง มีฐานข้อมูลมากกว่าสามพันล้านเว็บไซต์และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน จุดเด่นที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ คือเป็นเว็บไซต์ค้นหาที่สนับสนุนภาษาต่างๆ มากกว่า 80 ภาษา ทั่วโลก(รวมทั้งภาษาไทย) และมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ให้บริการในส่วนต่างๆ ของโลกมากถึง 36 ประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย ซึ่งบริการค้นหาของ Google จะแยกฐานข้อมูลออกเป็น 4 หมวด และแต่ละหมวดมีการค้นหาแบบพิเศษเพิ่มเติมด้วย คือ
                   -         เว็บ : เป็นการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก
                   -         รูปภาพ : เป็นการค้นหารูปภาพหลากหลายฟอร์แมตจากเว็บไซต์ต่างๆ
                   -         กลุ่มข่าว : เป็นการค้นหาเรื่องราวที่น่าสนใจจากกลุ่มข่าวต่างๆ
                   -         สารบบเว็บ : การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่แยกออกเป็นหมวดหมู่
                3.  Sanook
                  http://www.sanook.com
เป็นเว็บไซต์ชื่อดังของไทยที่เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลของไทยที่มีข้อมูลให้ค้นหามากมายทั้งของไทยและทั่วโลกซึ่งมีทั้งแบบนามานุกรมและคำค้น ซึ่งจะบอกที่อยู่ของเว็บไซต์และมีคำอธิบายเว็บที่หาอย่างเข้าใจง่าย และยังสามารถส่งเว็บไซต์นี้ให้เพื่อนๆ ทางอีเมล์ด้วย

3.  จงค้นหาเว็บไซต์ที่ให้บริการ E-mail มาอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
          ตอบ 1. จีเมล (Gmail) เป็นบริการอีเมลฟรีของกูเกิลผ่านทางระบบเว็บเมล POP และ IMAP โดยในขณะที่โปรแกรมยัง  อยู่ในระยะพัฒนา (เบต้า) จีเมลเปิดให้ผู้ที่ได้รับคำเชิญทดลองใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547 และให้บริการแก่บุคคลทั่วไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 หลังจากนั้นจึงออกจากระยะพัฒนาพร้อมกับบริการอื่น ๆ ของกูเกิล แอปส์เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปัจจุบันจีเมลรับรองการใช้งาน 54 ภาษารวมถึงภาษาไทย จีเมลเป็นผู้บุกเบิกการใช้ AJAX ที่ใช้งานจาวาสคริปต์และการใช้งานผ่านทางคีย์บอร์ด ทำให้สะดวกต่อการใช้งานปัจจุบัน จีเมลเป็นบริการอีเมล์บนเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก กล่าวคือมากกว่า 425 ล้านคน
                2. วินโดวส์ไลฟ์ ฮอตเมล (Windows Live Hotmail) หรือก่อนหน้านี้เรียกว่า วินโดวส์ไลฟ์ เมล เป็นบริการฟรีเว็บเมลจากไมโครซอฟท์ โดยปัจจุบันอยู่ในระยะพัฒนา ซึ่งได้ออกแบบเพื่อแทนที่ฮอตเมลในปัจจุบัน โดยความมีความสามารถเด่นคือการใช้เทคนิคเอแจ็กซ์ พื้นที่ความจุ 5 จิกะไบต์ สนับสนุนยูนิโคด และมีระบบความปลอดภัยหลายอย่างด้วยกันตั้งแต่วันที่ 7พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ผู้สมัครบัญชีฮอตเมลจะถูกสร้างเป็นบัญชีวินโดวส์ไลฟ์ ฮอตเมล โดยอัตโนมัติ และผู้ใช้ปัจจุบันสามารถอัปเดตด้วยการคลิกที่ปุ่ม Join Windows Live Hotmail สีเขียว ปัจจุบันนี้ วินโดวส์ไลฟ์ ฮอตเมลรองรับ 36 ภาษา ซึ่งรวมถึงภาษาไทย
               3.  ยาฮู! (Yahoo! Inc.) (แนสแด็ก: YHOO) คือบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสัญชาติอเมริกันซึ่งประกอบไปด้วยเว็บท่า, เสิร์ชเอนจิน, Yahoo! Directory, Yahoo! Mail, Yahoo! News, Yahoo! Photos (ซึ่งในวันที่ 20กันยายน 
ปี 2550 ได้โอนไปรวมเข้ากับ Flickr), ฯลฯ ยาฮู! ก่อตั้งขึ้นโดยนักศึกษาปริญญาเอกสองคนจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) และ เดวิด ฟิโล (David Filo) ในเดือนมกราคมปี 1994 และเริ่มดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทครั้งแรกในวันที่ 2 มีนาคม ปี 1995 ปัจจุบัน ยาฮู! มีบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

4.  จงค้นหาเว็บไซต์ที่สนใจอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น (ไม่ซ้ำกับข้อ 1-3)
       ตอบ 1. 4sharedโฟร์แชร์ คือบริษัทผู้ให้ บริการเก็บรักษาและแบ่งปันไฟล์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ในประเทศ โดยมีผู้ก่อตั้งสองคนได้แก่ อเล็กซ์ ลุนคอฟ และเซอร์กี้ ชัดนอฟสกี ปัจจุบัน 4shared มีผู้ใช้ทั้งสิ้น 5,300,234 คน และมีผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวน 11,000,222 คนต่อวัน[ต้องการอ้างอิง] มีผู้ใช้เข้ามาเก็บรักษาไฟล์ 940 TB และโอนไฟล์ 317TB เป็นประจำทุกวัน
                  2. Pantipพันทิป ในยุคปัจจุบันมีการยุบรวมเว็บบอร์ด Technical Exchange และ Pantip Cafe เข้าด้วยกัน โดย Technical Exchange ถูกเปลี่ยนเป็นห้องซิลิคอนวัลเลย์ ในแต่ละห้องประกอบด้วยแท็ก เช่น ห้องเฉลิมไทย มีแท็กภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ ค่ายหนัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแท็กรองที่ไม่สังกัดในห้องไหน เช่น ชื่อดารา ชื่อละคร ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น
                 3. Wikipediaวิกีพีเดีย เว็บวิกิพีเดียเป็นหนึ่งใน 35 เว็บไซด์ที่มีผู้ใช้สูงที่สุดในโลก ชื่อเสียงของวิกิพีเดียก่อให้เกิด โครงการพี่น้องหลายโครงการ และได้รับการกล่าวถึงในสื่อต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ  Wikipedia ก็คือ เอนไซโคพีเดีย หรือสารานุกรมบนเว็บ แต่จุดสำคัญของ Wikipedia คืออนุญาตให้คนทั่วไปสามารถเขียน หรือแก้ไขข้อความบน Wikipedia ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ดูแลระบบ ระบบนี้อาจทำให้สงสัยว่าแล้วใครจะบอกได้ว่าสิ่งที่ต่างคนต่างเข้ามาเขียน นั่นถูกหรือผิด แต่เว็บไซต์นี้คิดว่าทุกคนที่เป็นผู้อ่าน ควรมีสิทธิจะเขียนจนทำให้เป็นความรู้ที่ทุกคนร่วมกันกลั่นกรอง ดังนั้น ความน่าเชื่อถือจึงเกิดขึ้นในระดับหนึ่งเพราะความเชื่อเกี่ยวกับความรู้ (knowledge) ในยุคนี้ ไม่ควรเป็นเพียงสิ่งที่ต่างคนต่างเขียนอีกต่อไปแล้วแต่ควรเกิดจากความเห็นร่วมกันในสังคม (social construction of knowledge)ก็เป็นความรู้ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้เขียนแต่ละคนต้องรับผิดชอบที่จะไม่เขียนสิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิของผู้อื่น ส่วนผู้ดูแลระบบ Wikipedia เพียงแต่ตรวจสอบว่า งานที่เขียนไว้นั้นเหมาะสมหรือไม่เท่านั้น   วิกิพีเดียภาษาไทยก็ไม่น้อยหน้าเวอร์ชั่นอังกฤษแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มเมื่อปี 2546 สารานุกรมไหนบ้างที่รวบรวมคำอธิบายระบบโซตัส การ์ตูนญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งจีฉ่อย ร้านโชห่วยชื่อดัง ไว้ในที่เดียวกัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือให้คุณอ่าน แก้ไข และต่อเติมได้ตามอำเภอใจ    Wikipedia    มีโปรแกรมเป็นภาษาไทยให้ใช้งานด้วย
5.   จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้
-     Web board คือลักษณะของเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนบทสนทนา การพูดคุย การอภิปรายในสังคมออนไลน์นอกจากชื่อเว็บบอร์ดแล้ว ยังมีเรียกกันหลายชื่อไม่ว่า กระดานข่าว กระดานข่าวสาร กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ กระดานสนทนา กระดานสนทนาออนไลน์ ฟอรัม เว็บฟอรัม เมสเซจบอร์ด บุลลิทินบอร์ด ดิสคัชชันบอร์ด ฯลฯ หรือเรียกอย่างสั้นว่า บอร์ด ก็มี
-      Banner เว็บแบนเนอร์ (อังกฤษ: web banner) เรียกโดยย่อว่า แบนเนอร์ คือรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาบนเวิลด์ไวด์เว็บ เป็นการวางภาพโฆษณาลงไปบนหน้าเว็บแล้วทำไฮเปอร์ลิงก์กลับไปยังเว็บที่โฆษณา ด้วยจุดประสงค์เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมให้เข้าไปยังเว็บไซต์ที่โฆษณานั้นผ่านการคลิก เว็บแบนเนอร์สร้างขึ้นจากไฟล์รูปภาพทั่วไปเช่น GIF JPEG PNG หรือใช้จาวาสคริปต์เชื่อมโยงเทคโนโลยีมัลติมีเดียอย่างอื่นเช่น แฟลช ช็อกเวฟ จาวา หรือซิลเวอร์ไลต์ เป็นต้น และอาจมีการใช้ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือวิดีโอมาผสมผสานเพื่อนำเสนอให้โดดเด่นมากที่สุด ปกติแล้วภาพในเว็บแบนเนอร์จะมีอัตราส่วนขนาดกว้างยาวที่สูง (ซึ่งจะทำให้แบนเนอร์มีขนาดกว้างแต่แบน หรือสูงแต่แคบ) ในลักษณะเดียวกับป้ายโฆษณา (เรียกว่าแบนเนอร์เหมือนกัน) ซึ่งภาพเหล่านี้จะถูกจัดวางลงในหน้าเว็บที่มีเนื้อหาน่าสนใจ อย่างเช่นบทความจากหนังสือพิมพ์หรืองานเขียนวิพากษ์วิจารณ์
-      Pool การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง,รายชื่อผู้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง,บุคคลที่ปรากฎในรายชื่อ,การสำรวจความคิดเห็นของคนจำนวนมาก  ได้รับคะแนนเลือกตั้ง,ออกเสียงลงคะแนน,สำรวจความคิดเห็น,
-      Upload การถ่ายโอนข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งคอมพิวเตอร์ตัวส่งข้อมูลเรียกว่าเป็นตัวที่ทำการ "บรรจุขึ้น" ส่วนคอมพิวเตอร์ตัวรับข้อมูลเรียกว่าเป็นตัวที่ทำการ "บรรจุลง" ส่วนมากใช้ในการถ่ายโอนจากคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายไปไว้ในแม่ข่าย ซึ่งถือว่าสูงกว่า
-      Download การคัดลอกแฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรม จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเข้า มาในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรากำลังใช้อยู่ โดยผ่านทางโมเด็ม ((modem) เป็นต้นว่าคัดลอกจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเข้ามาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเอง
-      Counter เป็นวงจรพื้นฐานที่นิยมใช้กันมากในปํจุบันนี้ก็คือ "วงจรนับ" เนื่องจากวงจนับเป็นส่วนหนึ่งของวงจรที่มีอยู่ทั่วไปมากมาย เช่น วงจรวัดขนาดของสัญญาณ วงจรวัดคามถี่ นาฬิกาดิจิตอล และวงจรต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น วงจรนับจะมีอยู่สองแบบคือ วงจรนับแบบไม่เข้าจังหวะ (Asynchronous Counter) และ วงจรนับแบบเข้าจังหวะ (Synchronous Counter)


6. หาโจทย์เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตมาอย่างน้อย 5 ข้อ (เขียน ก ข ค ง พร้อมเฉลย)
1. ข้อใดให้ความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้องที่สุด
ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข. ไซเบอร์สเปช
ค. กลุ่มของคอมพิวเตอร์
ง. การส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง

2. อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นที่ประเทศใด
ก. สหรัฐอเมริกา
ข. อังกฤษ
ค. รัสเซีย
ง. ออสเตรเลีย

3.การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเป็นสมาชิกกับใคร
ก. IPS
ข. ISP
ค. RSP
ง. SPI

4. โมเด็มคืออะไร
ก. อุปกรณ์แปลงสัญญาณชนิดหนึ่ง
ข. เครื่องมือในเล่นอินเตอร์เน็ต
ค. เครื่องมือในการส่งข้อมูล

ง. อุปกรณ์แปลงสัญญาณทั้งสัญญาณ อะนาล็อกและดิจิตอล

5. การใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความเรียกว่าอะไร
ก. อีเมล์
ข. การสืบค้นข้อมูล
ค. การโอนถ่ายข้อมูล
ง. การแลกเปลี่ยนข่าวสาร