วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต
1. ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต (ให้ตอบมาอย่างน้อย 5 ข้อ)
ตอบ 1.ด้านการศึกษา
          - สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
          - ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
          - นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น

2.ด้านธุรกิจและการพาณิชย์
          - ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
          - สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
          - ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น

3.ด้านการบันเทิง
          - การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine o­nline รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป
          - สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
          - สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้

4.การเรียนการสอนเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
       ในประเทศไทยการเรียนการสอนเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่เป็นในลักษณะของการเปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้น ให้แก่สมาชิกเครือข่าย หรือประชาชนผู้สนใจทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งได้จัดให้มีการเรียนการสอนเกี่ยว กับอินเตอร์เน็ต โดยจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาต่างๆ ให้แก่นักศึกษา ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมให้มีความพร้อมในการที่จะนำความรู้ไปประยุกต์ใน การค้นคว้าวิจัย หรือทำรายงาน ในรายวิชาต่าง ๆและที่สำคัญ เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง

5. ระบบข่าวสารบนอินเตอร์เน็ต   มีลักษณะเหมือนกระดานข่าวที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ทุกคนสามารถเปิดกระดานข่าวที่ตนเองสนใจหรือสามารถส่งข่าวสารผ่านกลุ่มข่าวบนกระดานนี้เพื่อโต้ตอบข่าวสารกันได้ ้

2. ให้นักเรียนหาประเด็นเกี่ยวโทษของอินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
   2.1  โรคติดอินเตอร์เน็ต
ตอบ....โรคติดอินเทอร์เน็ตอาจไม่คุ้นหูใคร หลายคนนะครับ แต่เชื่อว่าหลายครอบครัวคงพบปัญหาชวนสงสัยว่าลูกหลานใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปหรือไม่ โรคติดอินเทอร์เน็ต (Internet Addiction Disorder) นั้นจัดเป็นกลุ่มอาการทางจิตใจอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตในการเสพข้อมูลหรือข่าวสารมากเกินไป และหากเปรียบเทียบกับการติดดูโทรทัศน์หรือการติดอย่างอื่นๆ แล้วอินเทอร์เน็ตจะมีข้อแตกต่างกับสื่ออื่นๆ ก็คือ ความสามารถโต้ตอบกับผู้ที่เข้ามาใช้คนอื่นๆ ได้ทันที (Real Time)
ซึ่งทำให้โลกของอินเทอร์เน็ตมีความเสมือนเป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งที่ผู้ใช้สามารถ มีตัวตนในโลกนั้นได้ โดยปราศจากกฎเกณฑ์ และไร้ขอบเขตในการเดินทาง และสร้างตัวตนในโลกอินเทอร์เน็ตตามที่ตัวเองต้องการได้ ซึ่งหากผู้ใช้ยึดติดกับสังคมในโลกของอินเทอร์เน็ต จนแยกไม่ออกว่าโลกของความจริงและโลกเสมือน อาจจะนำมาซึ่งสาเหตุของเป็นโรคติดอินเทอร์เน็ตได้
  
  2.2   เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม
ตอบ....เรื่องของข้อมูลต่างๆที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆนั้นเป็น เรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอเน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนา มากนักทำให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภายเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอเน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่าอินเทอเน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้สือ่เหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้
   2.3   ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา
ตอบ....หนอนอินเทอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือโปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆจากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำงานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2542

 ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำนานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึดเมืองได้สำเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำงานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ไม่พึงประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรม ที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มันทำนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเราไปให้ผู้เขียนโปรแกรม
            นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหลอกหลวงต่างๆ อีกมากมายที่กลายเป็นข่าวให้เราได้รับทราบอยู่เสมอ การพยายามในการเจาะทำลายระบบเพื่อล้วงความลับหรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้น การใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน มีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร กลั่นกรองจากหลายๆ แหล่งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากเหล่ามิจฉาชีพไฮเทคเหล่านี้
   2.4  และโทษของอินเตอร์อื่นๆ มาอย่างน้อยอีก 5 ข้อ
ตอบ.....1โทษของอินเทอร์เน็ต มีหลากหลายลักษณะ ทั้งที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เสียหาย, ข้อมูลไม่ดี ไม่ถูกต้อง, แหล่งประกาศซื้อขาย
ของผิดกฏหมาย, ขายบริการทางเพศ ที่รวมและกระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ต่างๆ
            2 อินเทอร์เน็ตเป็นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทำให้การควบคุมกระทำได้ยาก
            3 มีข้อมูลที่มีผลเสียเผยแพร่อยู่ปริมาณมาก
           4 ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทำให้การค้นหากระทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
           5 เติบโตเร็วเกินไป
         - ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริง ต้องดูให้ดีเสียก่อน อาจถูกหลอกลวง-กลั่นแกล้งจากเพื่อน
         - ถ้าเล่นอินเทอร์เน็ตมากเกินไปอาจเสียการเรียนได้
         - ข้อมูลบางอย่างก็ไม่เหมาะกับเด็กๆ
         - ขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้ (นั่นจะเป็นเฉพาะการต่ออินเทอร์เน็ตแบบ Dial up แต่ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะสามารถใช้งานโทรศัพท์ที่ต่ออินเทอร์ เน็ตได้ด้วย)
         - เป็นสถานที่ที่ใช้ติดต่อสื่อสาร เพื่อก่อเหตุร้าย เช่น การวางระเบิด หรือล่อลวงผู้อื่นไปกระทำชำเรา
         - ทำให้เสียสุขภาพ เวลาที่ใช้อินเตอร์เนตเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้ขยับเคลื่อนไหว

3. ให้นักเรียนคิดโจทย์ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตที่เรียนมาตั้งแต่ต้น มีตัวเลือก พร้อมเฉลย อย่างน้อย 10 ข้อ
1. คอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อกันตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป เรียกว่าอะไร
ก.แผนกคอมพิวเตอร์
ข.เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ค.ฝ่ายคอมพิวเตอร์
ง.ระบบคอมพิวเตอร์
2. การเชื่อมคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียนเป็นการติดตั่งชนิดใด
ก.แลน (LAN)
ข.แมน(MAN)
ค.แวน(WAN)
ง.ติดตั้งได้ทุกที่
3. ข้อใดเป็นความสำคัญเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ก.ผู้ใช้สามารถทำง่านพร้อมกันได้
ข.ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
ค.ผู้ใช้สามารถใช้ทรัพยากรได้ เช่น เครื่องพิมพ์
ง.ถูกทุกข้อ
4. เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า อินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่
ก.เพราะมีบรรณารักษ์คอยควบคุมดูแล
ข.เพราะมีเครือข่ายที่กว้างไกล
ค.เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน
ง.เพราะมีการโฆษณาขายหนังสือครอบคลุมทุกเรื่อง
5. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
ก.สามารถเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ข.สามารถนำความลับของผู้อื่นมาเผยแพร่ได้
ค.สามารถส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หาเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศได้
ง.เป็นแหล่งค้นคว้าข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
6. ถ้าเปรียบเทียบกับที่ตั้งของบ้าน IP Address เปรียบได้กับอะไร
ก.บ้านเลขที่
ข.หมู่บ้าน
ค.ตำบล
ง.อำเภอ
7. Internet Explorer (e) เป็นโปรแกรมหนึ่งที่เรียกว่าอะไร
ก.เว็บไซต์
ข.เว็บเพจ
ค.เว็บเบราว์เซอร์
ง.เว็บแอดเดรส
8. ถ้าเปรียบเว็บไซต์เป็นหนังสือหนึ่งเล่ม โฮมเพจเปรียบได้กับอะไร
ก.บรรณานุกรม
ข.สารบัญ
ค.คำนำ
ง.ปกหนังสือ
9. โปรแกรม Search Engine ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดคือข้อใด
ก.www.google.co.th
ข.www.msn.com
ค.www.yahoo.com
ง.www.sanook.com
10. ข้อใดถือว่าเป็นการปฏิบัติตนในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ ไม่ เหมาะสม
ก.สนทนาด้วยถ้อยคำที่เป็นกันเอง
ข.นำภาพส่วนตัวของดาราลงเว็บไซต์
ค.ไม่บอกข้อมูลส่วนตัวกับผู้ที่เราไม่รู้จัก

ง.อ่านข้อความหรือรูปภาพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัดที่ 1 เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)

แบบฝึกหัดที่ 1

เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)


1.ให้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่างการสืบค้นแบบ  Web directory , Meta  search ,  Search  engine
ตอบ Web directory  คือ  ระบบที่เก็บรวบรวมเว็บไซต์ไว้เป็นหมวดหมู่  ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ ได้ด้วย  เว็บที่ถูกบันทึกในแต่ละกลุ่ม จะต้องมีหัวเรื่องหรือเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน
Meta  search   คือ Search Engine  ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษาHTML  ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex Editor ด้วยภาษา HTML  นั่นเองเช่นชื่อผู้พัฒนา คำค้นหา เจ้าของเว็บ หรือ บล็อก  คำอธิบายเว็บหรือบล็อกอย่างย่อผลการค้นหาของ Meta Search Engine  นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิด  เนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือผู้ออกแบบเว็บสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้ มากมายเพื่อให้เกิดการค้นหาและพบเว็บ หรือ บล็อกของตนเอง และ  อีกประการหนึ่งก็คือ มีการอาศัย Search Engine Index Server หลายๆ  แห่งมากประมวลผลรวมกัน จึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ  ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร. search engine คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล  โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว  เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ  ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย.  เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด)  ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป  จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา  ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล  จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย  และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป

2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว กับ การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google
ตอบ   ความแตกต่าง การใช้คำสั่ง ดีใจจัง ค้นแล้วเจอแล้วจะช่วยให้ใช้เวลาในการค้นหาหน้าเว็บน้อยลงเพราะเมื่อใช้คำสั่ง Google จะเข้าหน้าเว็บแรกที่เป็นผลลัพธ์ของข้อความค้นหาของคุณทันที ส่วนการใช้คำสั่งค้นหาแบบธรรมดานั้น Google จะแสดงผลลัพธ์เป็นหน้าเว็บให้คุณเลือกเข้าเองในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา 

 3.ในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา  จงอธิบายความแตกต่างพร้อมยกตัวอย่างการใช้งานพร้อมผลลัพธ์ทั้งสอง (แต่ละคนห้ามซ้ำกัน)
ตอบ    AND เป็นการให้คำที่เราต้องการค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ ทั้งสองคำ ที่อยู่ระหว่าง “AND”  แต่ OR เป็นการให้คำที่เราต้องค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ คำใดคำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่าง “OR”
ตัวอย่างเช่น
ค้นหาคำว่า โดราเอม่อน AND  โคนัน จะได้ผลการค้นหาของข้อมูลเอกสารที่มีคำทั้งสองเท่านั้น
ค้นหาคำว่า กระทรวงการเงิน OR  ธนาคาร จะได้ผลการค้นหาของข้อมูลเอกสารที่มีคำใดคำหนึ่งก็ได้



4.Google Scholar มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ   ใช้ในการค้นหา งานเขียนทางวิชาการได้อย่างกว้างขวาง  และสามารถค้นหาในสาขาวิชาและแหล่งข้อมูลต่างๆ มากมายได้จากจุดเดียว: บทความ  peer-reviewed วิทยานิพนธ์ หนังสือ บทคัดย่อ  และบทความจากสำนักพิมพ์ทางวิชาการ แวดวงวิชาชีพ ที่เก็บร่างบทความ  มหาวิทยาลัย และองค์กรด้านการศึกษาอื่นๆ Google Scholar  ช่วยให้คุณสามารถระบุการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในโลกแห่งการค้นคว้า วิจัยทางวิชาการ

5.Google Guru  มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ  เว็บไซต์ย่อยของ Google  ที่เปิดให้สมาชิกที่มีบัญชีของ Google เองเช่น Gmail  สามารถโพสตั้งคำถามที่อยากจะรู้  และตอบคำถามที่เรารู้เพื่อสะสมคะแนนความน่าเชื่อถือได้  โดยแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ว่ามีคำถามค้างคาใจในเรื่องไหน  ก็สามารถเข้าไปตั้งคำถามให้ตรงหมวด และรอคำตอบจากผู้ใช้บัญชี Google  คนอื่นมาตอบคำถามได้

6.iGoogle คืออะไรมีไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
ตอบ  iGoogle ก็เหมือนกับหน้าเว็บไซต์ Google  (ที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆ) แต่ว่าเป็นหน้าของเราเอง  โดย i ก็เท่ากับบอกว่า ฉันไงกูเกิ้ลซึ่งไม่ได้มีไว้เพียงแค่ค้นหาเพียง อย่างเดียว แต่เราสามารถปรับแต่งหน้านั้นอย่างไรก็ได้ แล้วแต่เราพอใจ  คือนอกจากที่เราจะสามารถเลือกเนื้อหามาแสดงได้แล้ว  รูปร่างหน้าตาของเว็บ iGoogle เราก็สามารถปรับแต่งได้ด้วย เช่น  เราชอบใช้ภาษาไทย เราก็ให้มันแสดงเป็นภาษาไทยได้  เปลี่ยนธีม(Theme) หรือรูปร่างหน้าตาทั้งเว็บได้ด้วย

7.จงบอกสิทธิประโยชน์ของการสมัครเป็นสมาชิกของ Google  ว่ามีความแตกต่างกับผู้ไม่สมัครอย่างไร (ให้นักเรียนบอกที่มาด้วย)
ตอบ  เมื่อสมัครเป็นสมาชิก Google จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์
สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์
สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร

ที่มา: http://urlsiriporn.blogspot.com

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

เทคนิคการสืบค้นข้อมูล

ใบงานที่ 3.1
เรื่อง เทคนิคการสืบค้นข้อมูล

โครงงานที่ข้าพเจ้าสนใจคือ การทำสบู่

1. ให้นักเรียนเขียนวิธีการสืบค้นโดยเว็บไซต์กูเกิ้ล มีเงื่อนไขการสืบค้นให้มีความสำคัญ 3 คำ
       ตอบ โครงงานการทำสบู่.doc
2.ให้กรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นข้อมูลโดยใช้เว็บไซต์กูเกิ้ล และต้องการสืบค้นข้อมูลประเภทเอกสาร หรือไฟล์เอกสารเวิร์ด(Word)นักเรียนจะต้องพิมพ์เงื่อนไขการสืบค้นอย่างไร (ใช้คำสืบค้นชื่อเรื่องที่นักเรียนเลือกทำโครงการ)
       ตอบ โครงงานการทำสบู่.doc
3.ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็บไซต์กูเกิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูลประเภทงานนำเสนอหรือไฟล์พาเวอร์พ้อยด์(Powerpoint)นักเรียนจะต้องพิมพ์เงื่อนไขการสืบค้นอย่างไร(ใช้คำสืบค้นเรื่องที่นักเรียนเลือกทำโครงงาน)
     ตอบ สบู่เหลว.ppt
4. ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็บไซต์กูเกิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูลประเภทพีดีเอฟ(.pdf)  ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่ต้องการแก้ไข
       ตอบ  การผลิตสบู่.pdf